ลิฟต์ตัวนั้น… ที่ชั้น 13 ตำนานอาถรรพ์ที่พนักงานโรงแรมไม่อยากขึ้นคนเดียว
ลิฟต์ตัวนั้น… ที่ชั้น 13 ตำนานอาถรรพ์ที่พนักงานโรงแรมไม่อยากขึ้นคนเดียว
ในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและเหตุผล มีบางพื้นที่ในโรงแรมที่แม้แต่พนักงานที่ใจแข็งที่สุดก็ยังรู้สึกเสียวสันหลังวาบทุกครั้งที่ต้องเข้าไปคนเดียว… และหนึ่งในนั้นก็คือ “ลิฟต์บริการ” ตัวเก่าที่อยู่ลึกสุดของโรงแรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง… เวลาที่มันวิ่งผ่าน “ชั้น 13”
‘ชาติ’ เองครับ เรื่องที่ผมจะเล่าวันนี้ ไม่ได้มาจากหนังสือ แต่มาจากปากของ ‘ลุงสมบัติ’ ช่างซ่อมบำรุงอาวุโสที่ทำงานกับโรงแรมเก่าแก่แห่งหนึ่งมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่
โรงแรมส่วนใหญ่ในโลกตะวันตกมักจะไม่มี “ชั้น 13” เพราะถือเป็นเลขโชคร้าย แต่โรงแรมในเอเชียบางแห่งที่สร้างในยุคก่อน ยังคงมีชั้นนี้อยู่ และที่โรงแรมของลุงสมบัติ ชั้น 13 เคยเป็นชั้นของห้องพักราคาถูกที่ปัจจุบันถูกปิดตายไปแล้ว
ลุงสมบัติเล่าว่า ลิฟต์บริการตัวนี้มีเรื่องแปลกๆ เสมอเวลาที่ต้องขึ้นลงตอนกลางดึก บางครั้งมันจะหยุดเองที่ “ชั้น 13” ทั้งๆ ที่ไม่มีใครกดเรียก ประตูจะเปิดออกสู่โถงทางเดินที่มืดมิดและเงียบสงัด… มีเพียงแสงไฟฉุกเฉินสีแดงสลัวๆ ที่ส่องให้เห็นฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ พนักงานใหม่ๆ ที่เจอเหตุการณ์นี้มักจะรีบกดปิดประตูด้วยมือที่สั่นเทา
แต่เรื่องที่หลอนที่สุด คือเรื่องของ “เสียง”
พนักงานที่ต้องใช้ลิฟต์ตัวนี้ตอนดึกๆ คนเดียว มักจะได้ยินเสียง “ลมหายใจ” แผ่วๆ อยู่ข้างหลัง ทั้งๆ ที่ในลิฟต์มีแค่เขาคนเดียว บางคนก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคน “ลากของหนักๆ” อยู่บนเพดานลิฟต์ แต่ที่ทำให้หลายคนขอย้ายไปทำงานกะกลางวัน คือเรื่องของ “กระจก”
ลิฟต์ตัวนี้มีกระจกเงาบานใหญ่อยู่ด้านหลัง วันหนึ่ง พนักงาน Room Service หนุ่มคนหนึ่งต้องนำอาหารขึ้นไปส่งตอนตีสอง เขายืนพิงกระจกเล่นมือถือรอลิฟต์ขึ้นไป แต่แล้วเขาก็รู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลัง… เมื่อเขาลองหันไปมองเงาตัวเองในกระจก เขาก็แทบจะสิ้นสติ
เพราะเงาในกระจกนั้น… “ไม่ได้หันกลับมามองเขา”
เงานั้นยังคงยืนก้มหน้าเล่นมือถืออยู่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ตัวจริงของเขาหันหน้ามาทางกระจกแล้ว! เขาบอกว่าวินาทีนั้นเหมือนเวลาหยุดหมุน ก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออกที่ชั้นเป้าหมายพอดี เขาทิ้งรถเข็นอาหารแล้ววิ่งเตลิดออกมาโดยไม่คิดชีวิต
หลังจากวันนั้น ก็มีกฎที่ไม่ได้เขียนไว้สำหรับพนักงานทุกคนว่า “ถ้าไม่จำเป็น อย่าใช้ลิฟต์บริการตัวนั้นหลังเที่ยงคืน… และถ้าต้องใช้… อย่าหันไปมองกระจก”