“ตำนาน ‘แขก 202’: ห้องหมายเลขสองที่ไม่มีใครกล้าพัก… และรอยเท้าที่หายไป”

“ตำนาน ‘แขก 202’: ห้องหมายเลขสองที่ไม่มีใครกล้าพัก… และรอยเท้าที่หายไป”

ในทุกโรงแรม… มักจะมีห้องพักบางห้องที่ถูกล่าวขาน เป็นห้องที่พนักงานแม่บ้านไม่อยากจะทำความสะอาด, พนักงานต้อนรับไม่อยากจะจัดให้แขกพัก, และผู้จัดการใหญ่ก็มักจะใช้ข้ออ้างร้อยแปดเพื่อ “ปิดตาย” มันไว้

สำหรับโรงแรมของเรา “เอลิเซอร์ แกรนด์” ห้องนั้นคือห้อง 202

มันไม่ใช่ห้องที่เคยเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมสะเทือนขวัญ หรือมีแขกเสียชีวิตอย่างอนาถ… แต่มันคือห้องที่เต็มไปด้วย “ความรู้สึก” บางอย่าง ที่ค่อยๆ กัดกินขวัญและกำลังใจของพนักงานทุกคนที่ต้องเข้าไปใกล้

เรื่องราวของห้อง 202 เริ่มต้นจาก “ความปกติที่ไม่ปกติ”

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ห้อง 202 ไม่เคยมีประวัติเสีย ไม่มีแขกคอมเพลน ไม่มีอะไรผิดปกติ… แต่มันกลับไม่เคยมีแขกพักเกินหนึ่งคืน

แรกเริ่มเราคิดว่าคงเป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นเพราะแขกอาจมีเหตุให้ต้องเดินทางต่อ แต่เมื่อสถิติเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะจองกี่คืน สุดท้ายก็จะเช็คเอาท์ออกไปหลังจากคืนแรกเสมอ… ความสงสัยก็เริ่มก่อตัว

ผม, ชาติ เตมียเชิด, เองก็เคยเมินเฉยต่อเรื่องเหล่านี้ เพราะผมเชื่อในหลักเหตุผล… จนกระทั่ง “น้องเมย์” แม่บ้านสาวขวัญอ่อนคนหนึ่ง ได้เข้ามาในห้องทำงานของผมด้วยใบหน้าซีดเผือด ตัวสั่นเทา

“คุณชาติคะ… เมย์ไม่อยากเข้าห้อง 202 แล้วค่ะ”

เธอเล่าว่าทุกครั้งที่เข้าไปทำความสะอาดห้อง 202 เธอมักจะรู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลัง “จ้องมอง” เธออยู่เสมอ และสิ่งที่ทำให้เธอหลอนที่สุดคือ… ไม่ว่าจะจัดเตียงให้เรียบตึงแค่ไหน, ปัดฝุ่นทุกตารางนิ้วให้สะอาดหมดจดเพียงใด, เมื่อเธอเดินออกมาจากห้องและปิดประตูลง… เธอมักจะได้ยินเสียง “ขยับ” บางอย่างจากด้านในห้องเสมอ เหมือนมีใครบางคนกำลังลุกจากเตียง หรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ

แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจไม่ทำงานต่อคือ… วันนั้น เธอทำความสะอาดห้อง 202 จนเสร็จสิ้นทุกอย่าง จัดวางรองเท้าของแขกที่วางระเกะระกะไว้ที่ปลายเตียงให้เป็นระเบียบเรียบร้อยคู่กัน… แล้วเธอก็เดินออกมาจากห้อง แต่ไม่ถึงนาที เธอก็นึกขึ้นได้ว่าลืมผ้าเช็ดมือไว้ในห้องน้ำ จึงต้องไขกุญแจกลับเข้าไปอีกครั้ง

สิ่งที่เธอเห็น ทำให้เธอแทบกรีดร้อง…

รองเท้าของแขกที่เธอจัดวางไว้คู่กันที่ปลายเตียง… มันกลับไปวางอยู่คนละข้างของเตียง! โดยมี “รอยเท้าเปล่า” ที่มองไม่เห็น ปรากฏอยู่บนพรมข้างเตียง ราวกับมีใครบางคนเพิ่งจะลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปที่อีกฝั่งหนึ่ง… ทั้งๆ ที่ตอนที่เธอเดินออกไป ไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว!

หลังจากน้องเมย์เล่าจบ… ผมแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง แต่สายตาที่หวาดกลัวของน้องเมย์นั้น ไม่ได้บ่งบอกว่าเธอกำลังโกหก

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ห้อง 202 ก็ถูก “ปิดตาย” อย่างเป็นทางการ โดยไม่มีการให้เหตุผลที่ชัดเจนแก่พนักงานทั่วไป ผมเองก็ไม่กล้าให้แขกคนไหนพักในห้องนั้นอีกเลย

“ความเชื่อเบื้องหลังโรงแรม” คือสิ่งที่เราไม่อาจมองข้ามได้ และมันคือส่วนหนึ่งของ “ศาสตร์” ในการบริหารโรงแรมที่ Elixir Hospitality เข้าใจดี เราไม่ได้มองเรื่องเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องงมงาย แต่เราเข้าใจว่า “ขวัญและกำลังใจ” ของพนักงาน คือสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมหาศาล และบางครั้ง… การตัดสินใจ “ปิดตาย” ห้องบางห้อง ก็คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อรักษาบรรยากาศที่ดีและพลังงานบวกไว้ในโรงแรม

เพราะบางครั้ง “แขก” ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา… ก็อาจเป็น “เจ้าของร่วม” ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในบ้านหลังนี้ก็เป็นได้…

ลิ้งค์สั้นของบทความนี้: https://elixirhospitality.com/go/b1rl

Similar Posts

0 0 โหวต / votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
ฟีดแบ๕แบบอินไลน์ / Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด / View all comments