เสียงเพลงจากลิฟต์เก่า: ตำนาน “แขกตัวน้อย” ที่ไม่เคยเช็กเอาต์จาก “วาสนาแกรนด์โฮเต็ล”

เสียงเพลงจากลิฟต์เก่า: ตำนาน “แขกตัวน้อย” ที่ไม่เคยเช็กเอาต์จาก “วาสนาแกรนด์โฮเต็ล”

 

โรงแรม “วาสนาแกรนด์โฮเต็ล” คือหนึ่งในตำนานของกรุงเทพฯ ด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่เล่าขานถึงยุครุ่งเรืองในอดีต ผนังหินอ่อน โถงทางเดินกว้างขวาง และลิฟต์แบบเก่าที่ยังคงทำงานอยู่… โดยเฉพาะ ลิฟต์บริการด้านหลัง ที่พนักงานภาคกลางคืนต่างรู้กันดีว่า “มีเรื่องเล่า”

แม้ลิฟต์ผู้โดยสารจะถูกอัปเกรดให้ทันสมัย แต่ลิฟต์บริการตัวเก่าที่มุมตึกนั้นยังคงถูกใช้งานสำหรับพนักงานและขนของ บางครั้งก็ติดขัดบ้าง แต่สิ่งที่ทำให้มันไม่เหมือนลิฟต์ทั่วไป คือ เสียงเพลงกล่อมเด็กแผ่วๆ ที่บางครั้งก็ดังขึ้นมาในยามวิกาล ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ในลิฟต์เลย

เรื่องเล่ามีอยู่ว่า เมื่อหลายสิบปีก่อน มีครอบครัวเศรษฐีเดินทางมาพักที่นี่พร้อมลูกสาวตัวน้อยวัย 5 ขวบ ซึ่งชื่นชอบการเล่นลิฟต์เป็นชีวิตจิตใจ วันหนึ่ง หนูน้อยคนนั้นแอบหนีพี่เลี้ยงไปเล่นลิฟต์บริการตามลำพัง และเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น… หลังจากนั้นไม่นาน ครอบครัวก็เช็กเอาต์ไป ทิ้งไว้เพียงเสียงเพลงกล่อมเด็กจากกล่องดนตรีที่หนูน้อยชอบเล่น ซึ่งบางครั้งก็ได้ยินจากบริเวณลิฟต์เก่าตัวนี้

คืนหนึ่ง นายเด่น ยามประจำกะดึกคนใหม่ ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องผีสางเทวดา ถูกเรียกให้ไปขนอุปกรณ์จากห้องเก็บของชั้น 4 ลงมา เมื่อมาถึงลิฟต์บริการ เขากดเรียก แต่ลิฟต์กลับไม่ลงมาเสียที เขามองไปที่หน้าจอบอกชั้น ปรากฏว่าลิฟต์ค้างอยู่ที่ชั้น 5 นานผิดปกติ

“สงสัยจะเสียอีกแล้ว!” นายเด่นบ่นพึมพำ

จู่ๆ ไฟในโถงทางเดินก็กะพริบถี่ๆ ก่อนจะดับวูบไปชั่วขณะ ทิ้งไว้เพียงความมืดมิดและแสงสลัวๆ จากดวงจันทร์ที่ส่องลอดหน้าต่างเข้ามา ในความเงียบนั้นเอง นายเด่นก็ได้ยินเสียงแผ่วๆ เหมือน เสียงกล่องดนตรีกำลังบรรเลงเพลงกล่อมเด็ก ดังมาจากในช่องลิฟต์ที่อยู่เหนือหัวขึ้นไป

หัวใจของนายเด่นเต้นระรัว เขารีบหันไฟฉายไปที่หน้าจอลิฟต์อีกครั้ง คราวนี้ตัวเลขเริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ จากชั้น 5 ลงมา… 4… 3… และเมื่อลิฟต์เปิดออกที่ชั้น 2 ไม่มีใครอยู่ในนั้น นอกจากความว่างเปล่า และ กลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายแป้งเด็ก ที่ลอยออกมาจากช่องลิฟต์

นายเด่นไม่รอช้า เขากดปิดประตูลิฟต์อย่างแรง และวิ่งลงบันไดไปที่ชั้น 1 อย่างไม่คิดชีวิต เขายืนหอบหายใจอยู่ที่เคาน์เตอร์ยาม มองลิฟต์ตัวเก่าด้วยแววตาหวาดผวา

“ลิฟต์ตัวนั้น… มันมีอะไรอยู่ในนั้นหรือเปล่าครับ?” นายเด่นถามพี่ยามรุ่นพี่ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

พี่ยามรุ่นพี่จิบกาแฟช้าๆ แล้วมองไปที่ลิฟต์ตัวเก่าพร้อมรอยยิ้มจางๆ “อ๋อ… ไม่มีอะไรหรอกน้องเด่น แค่ ‘แขกตัวน้อย’ ของเรา เขาคงอยากเล่นลิฟต์อีกน่ะ”

ตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าเสียงเพลงจากลิฟต์เก่าจะดังขึ้นในยามใด นายเด่นก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ลิฟต์ตัวนั้นอีกเลย และตำนานของ “แขกตัวน้อย” ผู้ไม่ยอมเช็กเอาต์จาก “วาสนาแกรนด์โฮเต็ล” ก็ยังคงถูกเล่าขานต่อกันมาในหมู่พนักงานภาคกลางคืน จวบจนทุกวันนี้

ลิ้งค์สั้นของบทความนี้: https://elixirhospitality.com/go/0w5x

Similar Posts

0 0 โหวต / votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
ฟีดแบ๕แบบอินไลน์ / Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด / View all comments