วิชาการโรงแรม 101: บทที่ 12 – “ADR, Occupancy, RevPAR” สามทหารเสือแห่งการวัดผล

วิชาการโรงแรม 101: บทที่ 12 – “ADR, Occupancy, RevPAR” สามทหารเสือแห่งการวัดผล
หลังจากที่เราได้เรียนรู้เรื่องกลยุทธ์ต่างๆ มากมายแล้ว ในบทสุดท้ายของซีรีส์พื้นฐานนี้ เราจะกลับมาสู่ “หัวใจ” ของการวัดผลที่ผู้จัดการโรงแรมทุกคนต้องดูทุกวัน… นั่นคือ “สามทหารเสือ” แห่งการวัดประสิทธิภาพของฝ่ายห้องพักครับ ประกอบด้วย ADR, Occupancy, และ RevPAR
นี่คือ “สมุดพก” ประจำวันที่บอกได้ว่าเมื่อวานนี้… เรา “รบ” ชนะหรือแพ้ในสนามธุรกิจ
1. Occupancy (%): อัตราการเข้าพัก
คืออะไร: นี่คือตัวชี้วัดที่เข้าใจง่ายที่สุดครับ มันคือ “เปอร์เซ็นต์” ของจำนวนห้องพักที่ “ขายได้” เทียบกับจำนวนห้องพักทั้งหมดที่ “มีพร้อมขาย”
สูตรคำนวณ: (จำนวนห้องที่ขายได้ / จำนวนห้องทั้งหมดที่มี) x 100
ตัวอย่าง: โรงแรมมี 100 ห้อง เมื่อคืนขายได้ 80 ห้อง Occupancy Rate คือ 80%
บอกอะไรเรา: บอกถึง “ปริมาณ” หรือ “ความนิยม” ของโรงแรมในช่วงเวลานั้นๆ แต่ไม่ได้บอกถึง “คุณภาพ” ของรายได้เลย
2. ADR (Average Daily Rate): ราคาขายเฉลี่ยต่อห้อง
คืออะไร: ADR คือ “ราคาขายเฉลี่ย” ของห้องพักแต่ละห้องที่ขายได้ในคืนนั้นๆ
สูตรคำนวณ: รายได้จากห้องพักทั้งหมด / จำนวนห้องที่ขายได้
ตัวอย่าง: เมื่อคืนมีรายได้จากห้องพัก 240,000 บาท และขายห้องไปได้ 80 ห้อง ADR คือ 240,000 / 80 = 3,000 บาท
บอกอะไรเรา: บอกถึง “คุณภาพ” หรือ “ระดับราคา” ที่เราสามารถขายได้ ยิ่ง ADR สูง ก็ยิ่งแสดงว่าเราสามารถขายห้องในราคาที่ดีได้
3. RevPAR (Revenue Per Available Room): รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักที่มีทั้งหมด
คืออะไร: นี่คือ “ราชา” แห่งการวัดผลอย่างแท้จริงครับ RevPAR คือการนำ “ปริมาณ” (Occupancy) และ “คุณภาพ” (ADR) มารวมกัน เพื่อให้เห็นภาพ “ประสิทธิภาพ” ในการสร้างรายได้ของโรงแรมที่แท้จริง
สูตรคำนวณ: รายได้จากห้องพักทั้งหมด / จำนวนห้องพักทั้งหมดที่มี หรือ ADR x Occupancy (%)
ตัวอย่าง (จากข้อมูลเดิม): 240,000 / 100 = 2,400 บาท หรือ 3,000 x 80% = 2,400 บาท
บอกอะไรเรา: RevPAR คือตัวเลขที่บอกว่า “โดยเฉลี่ยแล้ว ในคืนที่ผ่านมา ห้องพักทุกห้องในโรงแรม ไม่ว่าจะขายได้หรือไม่ได้ สามารถสร้างรายได้ให้เราได้ห้องละกี่บาท” มันคือตัวเลขที่สะท้อนภาพรวมได้ดีที่สุด เพราะมันพิจารณาทั้งห้องที่ขายได้และห้องที่ว่างเปล่า (ซึ่งคือต้นทุนที่เสียไป)
ที่ Elixir Hospitality เราไม่ได้มองตัวเลขสามตัวนี้แยกกัน แต่เรามองมันเป็น “เรื่องราว” เดียวกัน การที่ Occupancy สูงแต่ ADR ต่ำ อาจหมายถึงเรา “ลดราคา” มากเกินไป ในทางกลับกัน ADR สูงแต่ Occupancy ต่ำ อาจหมายถึงเรา “ตั้งราคาสูง” เกินไปจนลูกค้าหนี
เป้าหมายสูงสุดคือการหา “จุดสมดุล” ที่สมบูรณ์แบบระหว่าง Occupancy และ ADR เพื่อสร้าง “RevPAR ที่สูงที่สุด” และนั่นคือศิลปะและวิทยาศาสตร์ของการบริหารรายได้ที่แท้จริงครับ
ชาติ เตมียเชิด

ลิ้งค์สั้นของบทความนี้: https://elixirhospitality.com/go/x62q

Similar Posts

0 0 โหวต / votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
ฟีดแบ๕แบบอินไลน์ / Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด / View all comments