Lost in Translation: เมื่อ “ฟร้อนท์” ต้องกลายเป็น “ล่ามจำเป็น” (ฉบับฮาน้ำตาเล็ด)

Lost in Translation: เมื่อ “ฟร้อนท์” ต้องกลายเป็น “ล่ามจำเป็น” (ฉบับฮาน้ำตาเล็ด)

ใครที่คิดว่าการทำงานเป็นพนักงานต้อนรับโรงแรม ขอแค่ยิ้มสวย พูดจาไพเราะก็พอ… ผม ‘ชาติ’ ขอบอกเลยว่าคุณยังขาดคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดไปอีกหนึ่งอย่างครับ นั่นคือ “ทักษะการดำน้ำ… เอ้ย! การแปลภาษาแบบเดาใจขั้นเทพ!”

การรับมือกับแขกนานาชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก คือบททดสอบไหวพริบปฏิภาณขั้นสูงสุดของชาวฟร้อนท์ และบ่อยครั้งก็นำมาซึ่งเรื่องราวสุดฮาที่เล่ากี่ทีก็ขำทุกที วันนี้ผมคัดมาให้เน้นๆ ครับ

เคสที่ 1: “ทู แชมพู พลีส!” (Two Shampoo, Please!)

  • เรื่องมีอยู่ว่า: แขกชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งโทรลงมาที่ Operator ด้วยสำเนียงน่ารักๆ ว่า “Hello, I want… two… shampoo.” (สวัสดีครับ ผมต้องการ… สอง… แชมพู)

  • พนักงาน: รับออเดอร์อย่างแข็งขัน “Yes sir, two shampoos, right away!” แล้วก็จัดแจงให้แม่บ้านรีบนำ “แชมพู” สองขวดเล็กๆ ขึ้นไปส่งให้บนห้อง

  • จุดพีค: ไม่ถึง 5 นาที แขกคนเดิมโทรกลับมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดกว่าเดิม “No, no! Not shampoo! T-O-O C-H-A-M-P-O-O!

  • ไขปริศนา: พนักงานเริ่มเอะใจ ลองทวนคำช้าๆ “ทู… แชม… พู…” แล้วก็ถึงบางอ้อ! สิ่งที่แขกต้องการไม่ใช่แชมพูสระผม แต่คือ “ต้มยำกุ้ง” (Tom Yam Pooh) สองที่นั่นเอง! (Pooh คือเสียงที่ใกล้เคียงที่สุดที่เขาจะออกเสียงคำว่า “กุ้ง” ได้) จบเคสนั้นไปพร้อมกับเสียงหัวเราะและต้มยำกุ้งร้อนๆ สองถ้วย

เคสที่ 2: “Where is the beach?” (ชายหาดอยู่ไหน?)

  • เรื่องมีอยู่ว่า: แขกฝรั่งท่านหนึ่งเดินเข้ามาถามพนักงานต้อนรับสาวสวยที่โรงแรมใจกลางกรุงเทพฯ ว่า “Excuse me, where is the beach?”

  • พนักงาน (ด้วยความหวังดี): “Oh, the beach is very far from here sir. You can go to Pattaya, it takes about two hours.” (โอ้ ชายหาดไกลจากที่นี่มากค่ะ คุณไปพัทยาได้นะคะ ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง)

  • จุดพีค: แขกทำหน้างงสุดขีด แล้วพูดช้าๆ ชัดๆ ว่า “No, no… THE BITCH! Where is your female dog?”

  • ไขปริศนา: ทั้งเคาน์เตอร์เงียบกริบไป 3 วินาที ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมา เรื่องของเรื่องคือ โรงแรมนี้เป็น Pet-friendly และมี “น้องหมา” เพศเมียเป็นมาสคอตประจำโรงแรมชื่อ “แซนดี้” แขกท่านนี้แค่อยากจะเล่นกับน้องหมาเท่านั้นเอง!

เคสที่ 3: “ไอ ว้อนท์ เวค-อัพ-คอล… ฟอร์-ฟอร์-ตี้-ฟอร์”

  • เรื่องมีอยู่ว่า: แขกชาวจีนโทรมาขอ Morning Call ตอนกลางดึก พนักงานก็รับเรื่องและทวนอย่างดี “Okay sir, wake up call at 4:44 AM, correct?” แขกก็ตอบ “เยสๆๆ!”

  • พนักงาน: รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ตั้งนาฬิกาปลุกตามหน้าที่ พอถึงเวลา 4:44 น. ก็โทรขึ้นไปปลุกตามปกติ

  • จุดพีค: ตอนสายๆ แขกคนเดิมเดินหน้าเหวี่ยงลงมาโวยวายที่ล็อบบี้ว่าทำไมไม่มีใครปลุกเขาเลย! เขาตกรถไฟไปสนามบินเรียบร้อยแล้ว!

  • ไขปริศนา: หลังจากพยายามสื่อสารกันอยู่นานก็เข้าใจว่า ในภาษาจีนกลาง เลข “สี่ (四)” ออกเสียงว่า “ซื่อ” ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า “สือ (十)” ที่แปลว่า “สิบ” พอดี! สิ่งที่แขกต้องการจริงๆ คือให้ปลุกตอน “สิบโมงสี่สิบนาที (10:40)” ไม่ใช่ตีสี่สี่สิบสี่!

เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสนุกสนานปนปวดหัวที่คนโรงแรมต้องเจอครับ มันสอนให้เรารู้ว่าการบริการที่ดี ไม่ใช่แค่การทำตามคำสั่ง แต่คือการ “พยายามทำความเข้าใจ” ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า แม้ว่ามันจะถูกซ่อนอยู่หลังกำแพงของภาษาก็ตาม!

ลิ้งค์สั้นของบทความนี้: https://elixirhospitality.com/go/t62

Similar Posts

0 0 โหวต / votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
ฟีดแบ๕แบบอินไลน์ / Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด / View all comments