No-Show” vs “Go-Show” ศัพท์ลับที่พนักงานสายการบินและโรงแรมใช้เม้าท์กัน
No-Show” vs “Go-Show” ศัพท์ลับที่พนักงานสายการบินและโรงแรมใช้เม้าท์กัน
ในสนามบินและล็อบบี้โรงแรมที่ดูวุ่นวาย มี “โค้ดลับ” หรือศัพท์เฉพาะมากมายที่พนักงานใช้สื่อสารกันอย่างรวดเร็ว วันนี้ ‘ชาติ’ จะพามาถอดรหัส 2 คำที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง แต่สร้างความปั่นป่วน (และบางทีก็สร้างโอกาส) ให้กับคนทำงานบริการได้อย่างมหาศาล นั่นคือ “No-Show” และ “Go-Show” ครับ
No-Show (โน-โชว์): แขกผู้หายไปในกลีบเมฆ
-
คืออะไร?: คือสถานการณ์ที่แขกทำการจองไว้เรียบร้อย (ไม่ว่าจะจองห้องพัก, ตั๋วเครื่องบิน, หรือโต๊ะอาหาร) แต่สุดท้าย… ไม่มา! และที่สำคัญคือ “ไม่โทรมาแจ้งยกเลิก” ด้วย ปล่อยให้การจองนั้นว่างเปล่าไปเฉยๆ
-
ผลกระทบ: สำหรับโรงแรม นี่คือ “ฝันร้าย” ครับ เพราะห้องนั้นจะถูก “กัน” ไว้ให้แขกท่านนั้น ไม่สามารถขายให้ลูกค้ารายอื่นได้ ทำให้โรงแรมเสียโอกาสในการสร้างรายได้ไปเต็มๆ
-
เกร็ดวงใน: นี่คือเหตุผลที่โรงแรมส่วนใหญ่มีนโยบาย “No-Show Charge” หรือการเก็บค่าปรับในกรณีที่คุณไม่มาแสดงตัวตามการจอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณการันตีการจองไว้ด้วยบัตรเครดิต ดังนั้น ถ้าคุณรู้ตัวว่าจะไปไม่ได้จริงๆ การโทรไปแจ้งยกเลิกแต่เนิ่นๆ คือมารยาทที่ดีที่สุดครับ
Go-Show (โก-โชว์): แขกผู้มากับดวง
-
คืออะไร?: คือสถานการณ์ที่ตรงกันข้ามกับ No-Show โดยสิ้นเชิงครับ นี่คือลูกค้าที่ “ไม่มีการจอง” ใดๆ ทั้งสิ้น แต่ “เดินดุ่มๆ เข้ามา” ที่สนามบินหรือโรงแรม แล้วบอกว่า “ผม/ดิฉัน พร้อมเดินทาง/เข้าพักเดี๋ยวนี้เลย มีที่ว่างไหม?”
-
ผลกระทบ: สำหรับโรงแรม Go-Show คือ “โอกาสทอง” ที่หล่นมาจากฟ้า! โดยเฉพาะในวันที่โรงแรมมีห้องว่างเหลือจากแขก No-Show พอดี การมาของแขก Go-Show ก็เหมือนกับฮีโร่ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มห้องว่างและสร้างรายได้ที่เกือบจะเสียไปแล้วกลับคืนมา
-
เกร็ดวงใน: แขก Go-Show มักจะเป็นนักเดินทางที่มีความยืดหยุ่นสูง หรือคนที่เพิ่งเจอปัญหาเที่ยวบินยกเลิกกะทันหัน พนักงานต้อนรับที่เก่งๆ จะรู้วิธีนำเสนอห้องพักและราคาที่น่าดึงดูดใจ เพื่อเปลี่ยน “ผู้ที่สิ้นหวัง” ให้กลายเป็น “ลูกค้าผู้โชคดี” ได้ในทันที
ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณได้ยินคำเหล่านี้ ก็เข้าใจได้เลยว่าเบื้องหลังเคาน์เตอร์นั้นกำลังเกิดเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น (หรือน่าปวดหัว) อยู่อย่างแน่นอนครับ!