“แขกคนสุดท้าย” ในห้องอาหารที่ปิดแล้ว
“แขกคนสุดท้าย” ในห้องอาหารที่ปิดแล้ว
เรื่องเล่านี้เป็นหนึ่งในตำนานคลาสสิกที่พนักงานห้องอาหารรอบดึก (Midnight Supper) หรือทีมจัดเลี้ยงที่ต้องเก็บของจนดึกดื่นมักจะเจอกันบ่อยที่สุด… เรื่องของ “แขก” ที่ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ… ทั้งๆ ที่แขกคนอื่นๆ กลับไปหมดแล้ว
เรื่องเกิดขึ้นที่ห้องอาหารไทยโบราณของโรงแรมริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง ห้องอาหารแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศที่ขลังและสวยงาม ด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สักและของตกแต่งที่เป็นของเก่าแก่จริงๆ
คืนนั้นมีงานเลี้ยงส่วนตัวที่เลิกดึกเป็นพิเศษ พนักงานจัดเลี้ยงช่วยกันเก็บกวาดโต๊ะและทำความสะอาดจนเกือบจะเสร็จเรียบร้อย เหลือเพียงโต๊ะตัวในสุดที่อยู่ติดริมหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นวิวแม่น้ำยามค่ำคืน
บนโต๊ะนั้น… ยังคงมี “แขกสุภาพสตรี” ท่านหนึ่งนั่งอยู่
เธอสวมชุดไทยโบราณสีเข้ม เกล้าผมเรียบร้อย และนั่งหันหลังให้กับพนักงาน… เธอนั่งนิ่งมาก ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย
พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งซึ่งเป็นพนักงานใหม่ที่ไม่เคยรู้ประวัติของที่นี่มาก่อน ได้เดินเข้าไปหาเธอด้วยความสุภาพ เพื่อจะแจ้งว่าห้องอาหารกำลังจะปิดให้บริการแล้ว
“ขอประทานโทษครับคุณผู้หญิง…”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยคดี… **ผู้จัดการห้องอาหารที่เห็นเหตุการณ์ก็รีบวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาคว้าแขนของเขาไว้ แล้วกระซิบเสียงสั่นว่า “อย่าเข้าไปทัก!”**
ผู้จัดการรีบดึงพนักงานใหม่คนนั้นกลับออกมา แล้วพยักหน้าให้พนักงานคนอื่นๆ รีบเก็บของในส่วนที่เหลือให้เสร็จโดยไม่ต้องไปสนใจโต๊ะนั้น ทุกคนทำงานกันอย่างเงียบเชียบและรวดเร็วผิดปกติ ก่อนจะพากันปิดไฟและออกจากห้องอาหารไปโดยไม่มีใครหันกลับไปมองที่โต๊ะนั้นอีกเลย
ในห้องพักพนักงาน ผู้จัดการจึงได้เล่าความจริงให้ฟังว่า “แขก” ที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นคือใคร
เธอก็คือ “เจ้าของเดิม” ของบ้านไม้สักหลังนี้ ซึ่งต่อมาได้ถูกดัดแปลงมาเป็นห้องอาหารของโรงแรมนั่นเอง ว่ากันว่าท่านรักและผูกพันกับมุมริมหน้าต่างตรงนั้นมากที่สุด และในคืนสำคัญๆ หรือคืนที่ฝนตกพร้ำๆ… ท่านก็มักจะกลับมานั่งที่ “โต๊ะประจำ” ของท่านเสมอ
กฎเหล็กที่พนักงานทุกคนรู้กันดีก็คือ… **”ให้จัดโต๊ะนั้นไว้ให้พร้อมเสมอ, อย่าเข้าไปทัก, และเมื่อถึงเวลาปิด ก็แค่กล่าวลาในใจแล้วเดินออกมาเงียบๆ”**
เพราะสำหรับที่นี่… ท่านไม่ใช่ “วิญญาณ” แต่ท่านคือ **”เจ้าของบ้าน”** ที่เราเป็นเพียงผู้ที่เข้ามาขออาศัยทำธุรกิจเท่านั้น
**ชาติ เตมียเชิด**