“เสียงเคาะประตู” ปริศนา: กฎเหล็กข้อแรกของแม่บ้านกะดึก
“เสียงเคาะประตู” ปริศนา: กฎเหล็กข้อแรกของแม่บ้านกะดึก
ในบรรดาเรื่องเล่าที่สืบทอดกันมาในแผนกแม่บ้าน มี “กฎเหล็ก” อยู่ข้อหนึ่งที่แม่บ้านกะดึกทุกคนต้องท่องให้ขึ้นใจ… “จงเคาะประตูสามครั้งเสมอ… แม้จะรู้ว่าห้องนั้นว่างก็ตาม”
นี่ไม่ใช่แค่ธรรมเนียมปฏิบัติเพื่อความเป็นสิริมงคลนะครับ แต่มันคือบทเรียนที่เกิดจากประสบการณ์ตรงที่น่าขนหัวลุกของแม่บ้านรุ่นพี่หลายๆ คน
เรื่องมีอยู่ว่า ในโรงแรมเก่าแก่แห่งหนึ่ง มีแม่บ้านคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานกะดึกได้ไม่นาน คืนหนึ่งเธอได้รับแจ้งจาก Front Desk ว่ามีแขกห้องหนึ่งเพิ่งเช็คเอาท์ออกไปกลางดึก และขอให้เธอช่วยขึ้นไปเก็บผ้าปูที่นอนและผ้าขนหนูเบื้องต้นก่อน เพื่อให้แม่บ้านกะเช้าทำงานได้เร็วขึ้น
เมื่อเธอไปถึงหน้าห้องพักนั้น เธอรู้ดีว่าห้องนี้ “ว่าง” แล้ว เธอจึงใช้มาสเตอร์คีย์ไขประตูเข้าไปทันที… โดย “ไม่ได้เคาะประตู” ก่อน
ทันทีที่เธอเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้เธอแทบสิ้นสติ…
เธอยืนอยู่ตรงโถงทางเดินเล็กๆ ของห้องพัก มองลึกเข้าไปเห็น “ใครบางคน” กำลังนั่งอยู่บนเตียง… เป็นเงาตะคุ่มของผู้ชายนั่งหันหลังให้เธออยู่ตรงปลายเตียง
เธอตกใจมากและคิดว่า Front Desk ให้ข้อมูลผิด แขกอาจจะยังไม่ได้เช็คเอาท์ เธอจึงรีบกล่าวคำขอโทษ “ขอโทษค่ะ! ดิฉันไม่ทราบว่าท่านยังอยู่ในห้องค่ะ!”
แต่เงาร่างนั้นก็นั่งนิ่ง… ไม่ไหวติง ไม่หันกลับมามอง
วินาทีนั้นเองที่เธอสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ… “เงา” ที่เธอกำลังมองเห็นนั้น มันดู “โปร่งแสง” เล็กน้อย และเธอมองไม่เห็นเงาสะท้อนของเขาในกระจกโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเลย…
เมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งที่เธอกำลังเห็นอาจไม่ใช่ “คน” ขาของเธอก็แข็งจนก้าวไม่ออก เธอยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้นได้แต่ภาวนาในใจ ก่อนที่จะรวบรวมสติทั้งหมดที่มี ค่อยๆ ถอยหลังออกมาจากห้องแล้วปิดประตูลงอย่างแผ่วเบาที่สุด
หลังจากวันนั้น เธอก็ไม่เคยลืมที่จะ “เคาะประตูสามครั้ง” ก่อนเข้าห้องพักทุกห้องอีกเลย… ไม่ว่าห้องนั้นจะมีแขกอยู่หรือไม่ก็ตาม
ที่ Elixir Hospitality เราสอนทีมงานเสมอว่า “การเคาะประตู” ไม่ใช่แค่เรื่องของมารยาทต่อแขกที่เป็นมนุษย์ แต่ยังเป็นการ “ให้เกียรติ” และ “ขออนุญาต” ต่อ “พลังงาน” หรือ “เจ้าของ” ที่อาจจะพักอยู่ในห้องนั้นก่อนแล้ว ซึ่งเรามองไม่เห็น
มันคือการแสดงความเคารพต่อทุกมิติที่อยู่ในพื้นที่ของเรา และเป็นเคล็ดวิชาที่ช่วยให้พนักงานของเราทำงานได้อย่างสบายใจและปลอดภัยครับ
ชาติ เตมียเชิด