เบื้องหลังความหอม: จิตวิทยาของ ‘กลิ่น’ ที่โรงแรมใช้ดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขาย

เบื้องหลังความหอม: จิตวิทยาของ ‘กลิ่น’ ที่โรงแรมใช้ดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขาย

 

คุณเคยไหม… เมื่อก้าวเข้าสู่ล็อบบี้โรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น หรือแม้กระทั่งหรูหรา? กลิ่นเหล่านั้นไม่ใช่แค่กลิ่นปรับอากาศทั่วไป แต่คือ “กลยุทธ์ลับ” ที่โรงแรมชั้นนำทั่วโลกใช้ในการสร้างความประทับใจ ดึงดูดลูกค้า และที่สำคัญคือ “เพิ่มยอดขาย” โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว!

วันนี้ “วงในโรงแรม” จะพาคุณเจาะลึกถึงปริศนาของ “กลิ่น” ในโรงแรม พร้อมเผยเบื้องหลังจิตวิทยาและวิทยาการของ “Sensory Marketing” ที่ซับซ้อนกว่าที่คุณคิด!

1. กลิ่น: ประตูสู่ความทรงจำและอารมณ์

ประสาทสัมผัสในการรับกลิ่นนั้นเชื่อมโยงโดยตรงกับสมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความทรงจำ ทำให้กลิ่นมีพลังมหาศาลในการสร้างประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและยั่งยืน  

  • สร้างความทรงจำ: กลิ่นเฉพาะของโรงแรม (Signature Scent) สามารถสร้างความทรงจำที่แข็งแกร่งและเชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ดี ทำให้แขกจดจำโรงแรมได้แม้จะไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว  
  • กระตุ้นอารมณ์: กลิ่นที่แตกต่างกันสามารถกระตุ้นอารมณ์ที่แตกต่างกันได้ เช่น กลิ่นหอมสดชื่นช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า กลิ่นอบอุ่นช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ  
  • สร้างความผูกพัน: เมื่อแขกมีความรู้สึกเชิงบวกกับกลิ่นของโรงแรม พวกเขามีแนวโน้มที่จะรู้สึกผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น

2. กลยุทธ์ลับ: ‘Sensory Marketing’ ที่โรงแรมใช้

โรงแรมใช้กลิ่นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Sensory Marketing” หรือการตลาดผ่านประสาทสัมผัส เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ครบวงจรและกระตุ้นพฤติกรรมของลูกค้า

  • สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์: กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับโรงแรม ทำให้โดดเด่นจากคู่แข่ง และเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ของแบรนด์
  • เพิ่มความพึงพอใจของแขก: กลิ่นที่น่ารื่นรมย์ช่วยเพิ่มความพึงพอใจโดยรวมของแขก ทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจและอยากใช้เวลาอยู่ในโรงแรมมากขึ้น
  • กระตุ้นการใช้จ่าย: การวิจัยแสดงให้เห็นว่ากลิ่นบางชนิดสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าใช้จ่ายมากขึ้นได้ เช่น กลิ่นที่ทำให้รู้สึกหรูหราหรือผ่อนคลาย อาจกระตุ้นให้แขกใช้บริการสปา, ห้องอาหาร, หรือซื้อสินค้าของโรงแรม
  • การควบคุมพฤติกรรม: กลิ่นสามารถนำทางแขกไปยังพื้นที่ต่างๆ ของโรงแรมได้ เช่น กลิ่นกาแฟหอมๆ ในล็อบบี้ตอนเช้าอาจกระตุ้นให้แขกเดินไปที่ร้านกาแฟของโรงแรม

3. เบื้องหลังวิทยาการ: กลิ่นเหล่านี้มาจากไหน?

การสร้างกลิ่นเฉพาะตัวของโรงแรมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องอาศัยวิทยาการและผู้เชี่ยวชาญด้านกลิ่น

  • การออกแบบกลิ่น (Scent Design): ผู้เชี่ยวชาญด้านกลิ่นจะทำงานร่วมกับโรงแรมเพื่อสร้างกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ โดยพิจารณาจากแนวคิดของโรงแรม, กลุ่มเป้าหมาย, และบรรยากาศที่ต้องการ
  • เทคโนโลยีการกระจายกลิ่น: โรงแรมใช้เครื่องกระจายกลิ่นแบบมืออาชีพ (Scent Diffusers) ที่สามารถควบคุมความเข้มข้นและช่วงเวลาการกระจายกลิ่นได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้กลิ่นคงที่และไม่ฉุนเกินไป
  • การบำรุงรักษา: การดูแลรักษาเครื่องกระจายกลิ่นและเติมน้ำหอมอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้กลิ่นคงคุณภาพและประสิทธิภาพ

4. ตัวอย่างกลิ่นและผลกระทบ:

  • กลิ่นสดชื่น (Citrus/Green Tea): มักใช้ในล็อบบี้หรือพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อสร้างความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และต้อนรับ
  • กลิ่นผ่อนคลาย (Lavender/Chamomile): มักใช้ในสปาหรือห้องพัก เพื่อส่งเสริมการผ่อนคลายและการนอนหลับ
  • กลิ่นหรูหรา (Sandalwood/Jasmine): มักใช้ในโรงแรมระดับ 5 ดาว เพื่อสร้างความรู้สึกโอ่อ่าและมีระดับ

บทสรุป:

กลิ่นในโรงแรมจึงเป็นมากกว่าแค่ความหอม แต่คือ “กลยุทธ์ลับ” ที่ซับซ้อนซึ่งผสานวิทยาการและจิตวิทยา เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ กระตุ้นอารมณ์ และส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของแขก การเข้าใจเบื้องหลังเหล่านี้จะทำให้คุณมอง “กลิ่น” ในโรงแรมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

สำหรับ อีลิคเซอร์ ฮอสพิทอลิตี้ แมเนจเม้นท์ โซลูชั่นส์ เราเชื่อว่าทุกประสาทสัมผัสของแขกล้วนมีความสำคัญต่อประสบการณ์โดยรวม เราพร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนในการนำกลยุทธ์ Sensory Marketing โดยเฉพาะ “กลิ่น” มาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ดึงดูดลูกค้า และเพิ่มยอดขายให้กับโรงแรมของคุณอย่างยั่งยืน

ลิ้งค์สั้นของบทความนี้: https://elixirhospitality.com/go/fdg1

Similar Posts

0 0 โหวต / votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
ฟีดแบ๕แบบอินไลน์ / Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด / View all comments