“สมรภูมิรีวิว: ศาสตร์มืดแห่งการ ‘พลิกดาว’ และศิลปะการเปลี่ยน ‘คำด่า’ ให้เป็น ‘คำชม'”
“สมรภูมิรีวิว: ศาสตร์มืดแห่งการ ‘พลิกดาว’ และศิลปะการเปลี่ยน ‘คำด่า’ ให้เป็น ‘คำชม'”
ในอดีต… เสียงที่ดังที่สุดในโรงแรมคือเสียงของผู้จัดการใหญ่ แต่ในปัจจุบัน… เสียงที่ดังและทรงอิทธิพลที่สุด คือเสียงของแขกนิรนามคนหนึ่ง ที่พิมพ์ข้อความเพียงไม่กี่บรรทัดลงบนเว็บไซต์รีวิว
ผม, ชาติ เตมียเชิด, ขอเรียนตามตรงว่าผมเคยดูแคลนพลังของ “รีวิวออนไลน์” มาก่อน ผมเคยคิดว่ามันเป็นเพียงพื้นที่ระบายอารมณ์ของแขกที่จู้จี้จุกจิก… จนกระทั่ง “รีวิว 1 ดาว” จากแขกท่านหนึ่งเกือบจะเผาโรงแรมของผมให้วอดวายไปทั้งหลัง
เรื่องราวเริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้… “โต๊ะในห้องพักมันโยกเยก”
แขกท่านหนึ่งได้เขียนรีวิวสั้นๆ แต่เจ็บแสบไว้ว่า “โรงแรม 5 ดาวอะไร โต๊ะทำงานยังตั้งไม่ตรงเลย เสียความรู้สึก”
ผู้จัดการกะดึกของผมในตอนนั้น ซึ่งยังอ่อนประสบการณ์ ได้เข้าไปตอบกลับรีวิวนั้นด้วยความตั้งใจที่ดี แต่ด้วยวิธีการที่ผิดพลาดมหันต์ เขาตอบกลับไปว่า “จากการตรวจสอบของทางเรา ไม่พบว่าโต๊ะดังกล่าวมีปัญหาแต่อย่างใด และตลอดวันที่ท่านเข้าพัก ท่านก็ไม่ได้มีการแจ้งเรื่องนี้กับทางพนักงาน…”
นั่นคือการจุดชนวนระเบิดเวลา!
การตอบกลับในลักษณะ “ปัดความรับผิดชอบ” และ “กล่าวโทษแขก” ได้กลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการตอบกลับของโรงแรมอย่างรุนแรง “ถ้าโรงแรมไม่รับฟังปัญหาเล็กๆ แล้วปัญหาใหญ่ๆ จะเป็นยังไง” คอมเมนต์หนึ่งเขียนไว้… จากรีวิว 1 ดาวเรื่องโต๊ะโยกเยก มันได้ลุกลามกลายเป็นวิกฤตความเชื่อมั่นที่แขกในอนาคตนับพันนับหมื่นคนจะได้เห็น
วันนั้นเองที่ผมต้องลงมาบัญชาการรบในสมรภูมินี้ด้วยตัวเอง และได้บัญญัติ “กฎเหล็กแห่งการตอบรีวิว” ขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่การพิมพ์ข้อความ แต่คือศาสตร์และศิลป์ที่ลึกซึ้ง:
1. เวทีนี้ไม่ใช่ของเรา: ต้องยอมรับความจริงข้อแรกก่อนว่า พื้นที่รีวิวไม่ใช่เวทีโต้วาทีเพื่อพิสูจน์ว่าใครถูกใครผิด แต่มันคือเวทีที่เราต้องแสดง “ความรับผิดชอบ” และ “ความเป็นมืออาชีพ” ให้สาธารณชนได้เห็น
2. ตอบเพื่อ “คนอ่าน” ไม่ใช่เพื่อ “คนเขียน”: หัวใจของการตอบรีวิว ไม่ใช่การเอาชนะคนเขียนรีวิว แต่คือการเอาชนะใจ “แขกในอนาคต” อีกนับร้อยนับพันคนที่กำลังจะอ่านรีวิวนี้ต่างหาก พวกเขากำลังจับตาดูอยู่ว่าโรงแรมของเราจะรับมือกับปัญหาอย่างไร
3. ใช้สูตร L-A-P-S (Listen – Apologize – Problem Solve – Surprise):
- Listen (รับฟัง): แสดงให้เห็นว่าเราได้ “ยิน” และ “เข้าใจ” ถึงความรู้สึกของเขาจริงๆ (“ผมเข้าใจ تماماً ครับว่าเรื่องโต๊ะโยกเยกสร้างความรำคาญใจให้ท่านเพียงใด”)
- Apologize (ขอโทษ): กล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจและไม่มีเงื่อนไข ไม่ใช่แค่ขอโทษ “สำหรับความไม่สะดวก” แต่ขอโทษสำหรับ “ความผิดพลาด” ของเรา
- Problem Solve (แก้ปัญหา): แจ้งให้สาธารณชนทราบว่าเราได้ลงมือแก้ไขปัญหานั้นแล้วอย่างไร (“ทีมช่างของเราได้เข้าไปจัดการยึดขาโต๊ะในห้อง 1204 ให้แน่นหนาทันที และกำลังทำการตรวจสอบโต๊ะในทุกห้องพักเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก”)
- Surprise (สร้างความประทับใจ): นี่คือขั้นตอนของมืออาชีพ คือการยื่นมือออกไปหาแขกคนนั้นเป็นการส่วนตัว (Offline) เพื่อมอบข้อเสนอเล็กๆ น้อยๆ ในการกลับมาพักอีกครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราใส่ใจจริงๆ
ผมได้ลบคำตอบเก่าทิ้ง และเขียนตอบกลับใหม่ทั้งหมดตามสูตรนี้… ผลลัพธ์ที่ได้น่าทึ่งมาก จากคอมเมนต์ที่เคยต่อว่าโรงแรม ก็เปลี่ยนมาชื่นชมในการรับมืออย่างมืออาชีพ และแขกท่านนั้นก็ได้ติดต่อกลับมาเพื่อขอบคุณในการใส่ใจของเรา
วิชาการโรงแรมในยุคนี้จึงไม่ได้วัดกันแค่ RevPAR หรือ Occupancy Rate อีกต่อไป แต่วัดกันที่คะแนน “Online Reputation” ด้วย เพราะมันคือเสียงสะท้อนที่แท้จริงของคุณภาพ และเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจของแขกยุคใหม่
การบริหารจัดการชื่อเสียงออนไลน์ (Online Reputation Management) คือสมรภูมิที่ซับซ้อนและต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ขั้นสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการที่ทีม Elixir Hospitality เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เราไม่ได้มองว่ารีวิวคือ “ปัญหา” แต่เรามองว่ามันคือ “ข้อมูลเชิงลึก” ที่มีค่าที่สุด Elixir Hospitality มีทีมงานที่คอยติดตาม วิเคราะห์ และวางกลยุทธ์ในการตอบกลับรีวิวในทุกแพลตฟอร์ม เพื่อเปลี่ยนทุกวิกฤตให้เป็นโอกาสทางการตลาด และสร้าง “กองทัพลูกค้าผู้ภักดี” ที่จะคอยปกป้องและแนะนำแบรนด์ของคุณต่อไปในโลกออนไลน์ หากโรงแรมของคุณกำลังต่อสู้ในสมรภูมินี้อย่างโดดเดี่ยว… ให้เราเข้าไปเป็นเสนาธิการให้ท่านสิครับ