วิชาการโรงแรม 101: บทที่ 15 – “The Balance Sheet” เอกสารการเงินที่สะท้อน ‘ความมั่งคั่ง’ ที่แท้จริงของโรงแรม
วิชาการโรงแรม 101: บทที่ 15 – “The Balance Sheet” เอกสารการเงินที่สะท้อน ‘ความมั่งคั่ง’ ที่แท้จริงของโรงแรม
หลังจากที่เราได้เรียนรู้เรื่องตัวชี้วัดในการดำเนินงานประจำวันไปมากมายแล้ว ในบทนี้เราจะขยับขึ้นมาสู่มุมมองของผู้บริหารระดับสูงและ “เจ้าของ” โรงแรมครับ เราจะมาทำความรู้จักกับหนึ่งในสามงบการเงินที่สำคัญที่สุด นั่นคือ “งบดุล” หรือ “Balance Sheet”
ถ้า “งบกำไรขาดทุน” (P&L) คือ “สมุดพก” ที่บอกว่าในเดือนที่ผ่านมาเราทำผลงานเป็นอย่างไร… “งบดุล” ก็คือ “โฉนดที่ดิน” หรือ “ทะเบียนทรัพย์สิน” ที่บอกว่า ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง โรงแรมของเรานั้น “มั่งคั่ง” และ “มั่นคง” มากแค่ไหน
หัวใจของงบดุลคือสมการที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่สุดในโลกของบัญชีครับ:
สินทรัพย์ (Assets) = หนี้สิน (Liabilities) + ส่วนของเจ้าของ (Owner’s Equity)
สมการนี้ต้อง “สมดุล” หรือ “เท่ากัน” เสมอสมชื่อครับ มันบอกเราว่า “ทรัพย์สินทั้งหมดที่โรงแรมมีอยู่ (Assets)” นั้น มีที่มาของเงินทุนจากสองแหล่ง คือ “เงินที่ไปกู้ยืมเขามา (Liabilities)” และ “เงินทุนของเราเอง (Equity)”
เรามาดูความหมายของแต่ละส่วนในบริบทของโรงแรมกันครับ:
1. สินทรัพย์ (Assets): ทุกสิ่งที่โรงแรมเป็นเจ้าของ
-
นี่คือ “ทุกสิ่งทุกอย่าง” ที่โรงแรมเป็นเจ้าของและมีมูลค่าเป็นตัวเงินครับ ตั้งแต่:
-
เงินสด (Cash): เงินในบัญชีธนาคารและในลิ้นชัก
-
ลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable): เงินที่บริษัททัวร์หรือลูกค้าองค์กรยังติดค้างเราอยู่
-
สินค้าคงคลัง (Inventories): มูลค่าของอาหาร, เครื่องดื่ม, หรือผ้าต่างๆ ที่ยังเก็บอยู่ในสโตร์
-
ที่ดิน, อาคาร, และอุปกรณ์ (Property, Plant, and Equipment – PPE): นี่คือสินทรัพย์ก้อนใหญ่ที่สุดและเป็นหัวใจของโรงแรมครับ
-
2. หนี้สิน (Liabilities): ทุกสิ่งที่โรงแรม “ติดหนี้” ผู้อื่น
-
นี่คือภาระผูกพันทางการเงินทั้งหมดที่โรงแรมจะต้องชำระในอนาคต:
-
เจ้าหนี้การค้า (Accounts Payable): เงินที่เรายังไม่ได้จ่ายให้กับซัพพลายเออร์
-
เงินกู้ยืมระยะยาว (Long-term Debt): เงินกู้ก้อนมหึมาที่เรากู้มาจากธนาคารเพื่อสร้างหรือซื้อโรงแรมนั่นเอง
-
รายได้รับล่วงหน้า (Unearned Revenue): เงินมัดจำค่าห้องพักที่แขกจ่ายมาล่วงหน้า แต่เรายังไม่ได้ให้บริการ ถือเป็น “หนี้” ทางการบริการครับ
-
3. ส่วนของเจ้าของ (Owner’s Equity): “ความมั่งคั่งสุทธิ” ของเรา
-
นี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าของครับ มันคือ “มูลค่าสุทธิ” ของโรงแรมหลังจากนำสินทรัพย์ทั้งหมดมาหักลบกับหนี้สินทั้งหมดแล้ว พูดง่ายๆ คือ “เงินทุนของเราเอง” ที่ใส่ลงไปในธุรกิจนี้ บวกกับ “กำไรสะสม” (Retained Earnings) ทั้งหมดที่ธุรกิจเคยทำได้ในอดีต
ที่ Elixir Hospitality เราไม่ได้แค่ช่วยบริหารให้โรงแรมมี “กำไร” ในแต่ละเดือน แต่เรามองไปถึงการสร้าง “ความมั่งคั่ง” ในระยะยาว เราจะวิเคราะห์งบดุลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่า “สินทรัพย์” ของโรงแรมกำลังเติบโต, “หนี้สิน” อยู่ในระดับที่ควบคุมได้, และที่สำคัญที่สุดคือ “ส่วนของเจ้าของ” (Owner’s Equity) นั้นเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพราะนั่นคือเครื่องพิสูจน์ “ความสำเร็จที่แท้จริง” ของการลงทุนครับ
ชาติ เตมียเชิด